การขายเป็นรูปแบบศิลปะที่ต้องใช้เครื่องมือและพรสวรรค์ที่แตกต่างกันเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วง การระบุผู้ที่สนใจซื้อผลิตภัณฑ์ได้ เราเรียกว่า ‘โอกาสในการขาย’ นี่เป็นแค่ขั้นตอนแรกของทุกอย่าง เพราะนอกจากนี้เราต้องการโน้มน้าวให้พวกเขาซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณให้ได้ ด้วยยุคดิจิตอลที่ทุกคนมีมือถือเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา ใครก็สามารถเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้ แต่สิ่งที่จะทำให้เราแตกต่างออกไปคือความเก๋าเกมซึ่งคุณสามารถเรียนรู้ได้จากเราที่นี่ กับเทคนิค 6 อย่างที่จะช่วยให้คุณพิชิตเป้าหมายได้อย่างสบายๆ
1.ขายในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของตัวเอง
ไม่ว่าคุณจะขายอะไรคุณต้องมีเว็บเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ เว็บไซต์ที่ออกแบบอย่างมืออาชีพจะช่วยดูงดูดให้ผู้คนสนใจมากขึ้น เป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้มีความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ยังยังช่วยให้คุณจัดการหน้าร้านออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย ปัจจุบันนี้มีเว็บไซต์สำเร็จรูปที่รองรับร้านค้าออนไลน์มากมาย เช่น Joomla หรือ Word Press ซึ่งถ้ามีความรู้เราสามารถสร้างเว็บที่สวยงามได้อย่างประหยัด แต่ถ้าอยากเอาสบายก็สามารถจ้างคนทำก็สะดวกดีเช่นกัน เพียงแค่จ่ายเงินก็มีเว็บขายของได้แล้ว ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสุดๆ
2.ขายในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
หากไม่มีความรู้ในด้านการสร้างเว็บเลย และก็ไม่อยากลงทุนมากในช่วงเริ่มต้น คุณสามารถใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นๆ เพื่อขายผลิตภัณฑ์ได้บนตลาดออนไลน์เช่น eBay เป็นสุดยอดเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซบุคคลที่สามเนื่องจากเกือบทุกอย่างสามารถขายได้ที่นั่น อย่างไรก็ตามคู่แข่งที่ขายสินค้าคล้ายๆ กัน ซึ่งจะต้องแข่งขันกันในด้านคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และความเร็วในการจัดส่งสินค้า เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในไทยยอดนิยมได้แก่ Shoppe กับ Lazada
3.ใช้โฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก
โฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (PPC) มีให้เห็นทั่วไปบนอินเทอร์เน็ต มันช่วยนำทางลูกค้าไปยังเว็บไซต์ของคุณ ตามชื่อมันเลย หมายความว่าคุณจะจ่ายเฉพาะเมื่อมีคนคลิกที่โฆษณา ซึ่งทำให้วิธีนี้มีประสิทธิภาพด้านต้นทุน อย่างไรก็ตามคุณต้องตั้งค่าเว็บไซต์หรือหน้า Landing Page ในลักษณะที่โน้มน้าวใจลูกค้าที่มุ่งหวังให้พวกเขาซื้อผลิตภัณฑ์ภายในเว็บไซต์
4.การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO)
บนโลกของเรามีเว็บไซต์หลายล้านเว็บ ดังนั้นผู้คนจะค้นหาคุณได้อย่างไรเมื่อพิมพ์คำค้นหาลงใน Google การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหาหรือ SEO เกี่ยวข้องกับการตั้งค่าเว็บไซต์ในวิธีที่กระตุ้นให้อัลกอริทึมของ Google ให้ชี้มายังเว็บไซต์ของเรา โดยอาศัยคำที่เรียกว่า Keyword หลัก โดยเราจะต้องศึกษาอย่างจริงจังหากจะทำให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้นหากเราทำได้จะทำให้เว็บไซต์อยู่ในอันดับสูงขึ้น หรือก็คืออยู่ในหน้าแรกนั่นเอง ช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นพบผลิตภัณฑ์ที่คุณขายได้ง่ายขึ้น
5.มีส่วนร่วมในการตลาดสื่อสังคมออนไลน์
การมีเว็บไซต์ช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์ต่างๆได้ เช่นโฆษณา PPC และ SEO แต่การมีสื่อสังคมออนไลน์ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับผู้ซื้อได้อย่างเป็นส่วนตัวได้มากขึ้น การตลาดโซเชียลมีเดียช่วยสามารถแสดงค่านิยมหลักของตัวคุณ ช่วยให้คุณสามารถช่วยเหลือหรือตอบข้อสงสัยของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว การรักษาการตอบสนองเหล่านี้ให้สม่ำเสมอ จะช่วยสร้างชื่อเสียงในด้านดีให้กับเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งลูกค้าจะชอบและชวนเพื่อนๆ ให้มาซื้อของกับคุณมากขึ้น
6.การตลาดเนื้อหาที่นอกเหนือจาก SEO
วิธีสุดท้ายสำหรับการขายเชื่อมโยงกับกลยุทธ์อื่นๆ การตลาดเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการสร้างเนื้อหาที่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือภาพเพื่อให้ความรู้ความบันเทิง หรือมีส่วนร่วมกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย การตลาดเนื้อหาที่เน้นหนักเกินไปในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของคุณนั้นไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับเนื้อหาที่มีเป้าหมายเพื่อให้คุณค่าแก่ผู้ชม แต่ก็ควรที่จะมีการเรียกร้องให้ดำเนินการหรือเชื่อมโยงไปยังหน้าผลิตภัณฑ์ของคุณภายในข้อควา